พิธีถวายเลือดรอฟีเฎาะฮฺ

พิธีถวายเลือดรอฟีเฎาะฮฺ
ท่านอาลี ท่านฮาซัน และท่านฮูเซน ไม่เคยรับรู้พิธีนอกรีดที่ว่านี้เลย

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไม่ใช่ชีอะฮ์(ผู้สนับสนุน)หรอกหรือ?ที่เป็นฆาตกรสังหารอลุลบัยต์!




นี้คือข้อมูลและงานเขียนที่น่าเชื่อถือของชาวชีอะฮ์ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ผู้สังหารท่านอุเสน ในวันที่ 10 มุหัรร้อม 61 ณ กัรบาลา
ฆาตกรฆ่าหุเสน

ท่านหุเสนหลงกลชาวเมืองกุฟะฮ์ที่เขียนจดหมายไปถึงท่านยัง ณ นครมักกะฮ์ จำนวนถึง 12,000 ฉบับ เพื่อขอความช่วยจากท่านหุเสนและให้ท่านหุเสนกลับมาเป็นผู้นำพวกเขา (มุตาฮา อัลอามาล 1/430) หลังจากนั้นท่านหุเสนได้ส่งท่านมุสลิม บิน อะกีล ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องท่าน ไปยังเมืองกูฟะฮ์ และชาวชีอะฮ์ได้มาให้สัตย์สาบานตนแสดงความจงรักภัคดีต่อมุสลิม (ในฐานะตัวแทนของอัลฮุสัยน์) จำนวนถึง 18,000 นาย  ท่านมุสลิม จึงส่งจดหมายข่าวถึงท่านฮุเสน ถึงข่าวการให้สัตย์สาบานของชาวกุฟะะฮ์ และท่านหุเสนก็เดินทางมายังเมืองกูฟะฮ์ แต่แล้วท่านหุเสนก็ถูกหักหลัง ท่านมุสลิมถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และสุดท้ายท่านอุเสนก็ถูกสังหารจากชาวกุฟะฮ์ ผู้ที่กล่าวว่าเป็นชีอะฮ์ผู้สนับสนุนท่านเช่นกัน....

หุเสน อัลกูรอนีย์ ยังกล่าวอีกว่า “และเราได้พบกับอีกจุดยืนหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสับปลับและกลับกลอก(มุนาฟิก)ของชาวกูฟะฮ์ นั้นคือ อับดุลลอฮ์ บุตรเหาซะฮ์ อัตตะมีย์ได้ไปยืนอยู่ต่อหน้าอิมามอัลหุสัยนฺแล้วตะโกนออกมาว่า “มีหุสัยอยู่ในกลุ่มของพวกเจ้าไหม?”
นี่ก็คือชาวกูฟะฮฺอีกคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานเคยเป็นชีอะฮ์ผู้สนับสนุนของอาลี และเป็นไปได้ว่าเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ที่ได้เขียนจดหมายไปถึงอิมามอัลหุสัยนฺ หรือเป็นคนของชะบัษและอื่นๆที่ได้เขียนจดหมายไปหาท่าน...แต่แล้วเขากลับตะโกนว่า “โอ้ หุเสน เจ้าจงยินดี และมีความสุขกับไฟนรกเถิก”
(ฟีริหาบ กัรบะลาอฺ หน้า 61)


กาซิม อัลอิหฺสาอีย์ อันนัจญ์ฟีย์ เล่าว่า “แท้จริงกองทัพที่ออกเพื่อสู้รบกับอิมามอัลหุสัยนฺ มีจำนวน 300,000 นาย ทุกคนล้วนเป็นชาวเมืองกุฟะฮฺ ไม่มีในหมู่พวกเขาที่เป็นชาวเมืองชาม หรือหิญาซ หรืออินเดีย หรือปากีสถาน หรือซูดาน หรืออิยิปต์ หรืออัฟริกา เลยแม้แต่คนเดียว แต่ทุกคนล้วนเป็นชาวกูฟะฮฺ ซึ่งได้รวมตัวกันจากชนเผ่าต่างๆ”
(อะอฺยาน อัชชีอะฮฺ 1/26)

หุสัยนฺ บุตรอะหฺมัด อัลบะรอกีย์ อันนัจญ์ฟีย์ นักประประวัติศาสตร์คนสำคัญของชีอะฮ์คนหนึ่ง เล่าว่า “อัลก็อซวีนีย์ กล่าวว่า “และสาเหตุหนึ่งที่ชาวกูฟะฮ์ต้องถูกประณาม นั้นคือ พวกเขาได้แทงอัลหะสัน บุตรอาลี และสังหารอัลหุสัยนฺ หลังจากที่พวกเขาได้เรียกร้องให้ท่านไปหา”
(ตารีฆ อัลกูฟะฮฺ หน้า 113)

อายะตุลลอฮฺ อัลอุซมา มุหฺสิน อัลอะมีน กล่าวว่า “หลังจากนั้น ชาวอิรัก จำนวน 20,000 นาย ก็ได้ให้คำสัตย์สาบานต่ออัลหุสัยนฺ โดยที่พวกเขาได้หลอกลวงและทรยศท่าน และปลีกตัวออกจากท่าน ในขณะที่การให้สัตย์สาบานของพวกเขายังคงอยู่บนบ่าของพวกเขา แต่แล้วพวกเขาเขาก็สังหารท่าน”
(ฟีริหาบ กัรบะลาอฺ หน้า 61)

เญาวาด มุหัดดิษีย์ กล่าวว่า “สาเหตุต่างๆ เหล่านี้ทำให้อิมามอะลีต้องประสบกับสองความเจ็บปวดจากพวกเขา อิมามอัลหะสันก็ต้องเผชิญกับการหลอกลวงของพวกเขา และมุสลิม บุตรอะกีลก็ถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรมต่อหน้าพวกเขา ส่วนอัลหุสัยนฺก็ถูกสังหารในสภาพที่กระหายน้ำ ณ แผ่นดินกัรบะลาอฺ ซึ่งอยู่ใกล้เมืองกูฟะฮฺ ด้วยเงื้อมมือของทหารกูฟะฮฺเอง”
(เมาสูอะฮฺ อาชูรออฺ หน้า 59)

อบูมันศูร อัฏฏ็อรุสีย์ อิบนุ ฏอวูส อัลอะมีน และอื่นๆ ได้เล่า อะลี บินหุเสน บุตรอะลี บุตรอะบีฏอลิบ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของ “ซัยนุลอาบิดีน” ได้กล่าวตำหนิชาวชีอะฮ์ที่ได้ทรยศหันหลังบิดาของท่านและสังหารท่านว่า “โอ้ประชาชาติเอ๋ย ฉันขอด่าว่าพวกเจ้า ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าพวกเจ้าได้เขียนจดหมายไปถึงบิดาของฉัน แต่แล้วพวกเจ้ากลับหลอกลวงท่าน พวกเจ้าได้ให้คำมั่นสัญญาและคำสัตย์สาบานตนแก่บิดาแน แต่แล้วพวกเจ้ากลับสังหารท่านและทรยศต่อท่าน ดังนั้นความพินาศฉิบหายต้องประสบความพวกเจ้าเพราะสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้ และความน่ารังเกียจของความคิดของพวกเจ้า พวกเจ้าจะมองหน้าท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม (ในวันปรโลก) ได้อย่างไร เมื่อท่านกล่าวแก่พวกเจ้าว่า “พวกเจ้าได้สังหารวงศ์วานของแน และทำลายเกียรติของฉัน ดังนั้นพวกเจ้าจึงไม่ใช่ประชาชาติของฉัน”
ชีอะฮ์นั้นแหละสังหารท่านหุเสน

ดังนั้นเสียงร้องไห้ของบรรดาสตรีก็ดังขึ้นทั่วทุกสารทิศ พวกเขาจึงกล่าวแก่กันว่า “พวกเจ้าฉิบหายแวโดยที่พวกท่านไม่ทันรู้ตัว” ดังนั้นท่านจึงกล่าวว่า “อัลลอฮ์ยังทรงปราณีผู้ที่ยอมรับคำตักเตือนของฉัน และรักษาคำสั่งเสียของฉัน ไว้ในหนทางของอัลลอฮ์ รสูล และวงศ์วานของท่าน เพราะท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม คือแบบอย่างที่ดีของเรา” ดังนั้นพวกเขาจึงกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “พวกเราพร้อมที่จะเชื่อฟัง ปฏิบัติตาม และปกป้องรักษาภารกิจสำคัญของท่าน โดยไม่ยอมผละหนี้และหลีกเลี่ยงไปจากท่านอีก ดังนั้น ท่านสั่งมาเถิด เพราะแท้จริงเราพร้อมที่จะร่วมทำสงครามกับสงครามของท่าน และร่วมอยู่อย่างสันติกับความสันติของท่าน โดยแน่แท้เราจะตอบโต้ยะซีด และเราจะต้องรอดพ้นจากบรรดาผู้อธรรมต่อท่านและต่อพวกเรา” ดังนั้นท่านจึงกล่าวว่า “ออกไปให้ไกลๆเลย โอ้บรรดาผู้ที่ชอบหลอกลวงและมากด้วยเลห์ ระหว่างพวกเจ้ากับอารมณ์ตันหาของพวกเจ้าได้แปรสภาพไปแล้ว พวกเจ้าประสงค์จะมาหาฉันเสมือนกับที่พวกเจ้าได้เคยไปหาบรรดาบิดาของฉันก่อนหน้านี้ใช่ไหม? ไม่อย่างแน่นอน และฉันขอสาบานด้วยพระนามของผู้อภิบาลของสตรีผู้ที่ชอบเต้นไปมา แท้จริงบาดแผล(ของเรา)ยังไม่หายสนิท เมื่อวานบิดาของเราถูกสั่งหารพร้อมครอบครัวของท่าน และการสูญเสียท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม และครอบครัวของท่าน และการสูญเสียบิดาของฉันและญาติๆของบิดาฉันได้ และฉันพบว่ามันยังอยู่ในระหว่างเพดานของฉัน และความขืนข่มของฉันอยู่ระหว่างคอหอยกับหลอดลมของฉัน ความโศกเศร้าของมันกำลังวนเวียนอยู่ตามแผ่นอกของฉัน”
(อัตเฏาะบะรีย์ได้กล่าวคุฏบะฮ์นี้ในอัลอิหฺติญาจญ์ 2/32 , อิบนุฏอวูสในอัลมัลฮูฟ หน้า 92 , 360 อัลอะมีนในละวาอิจญ์อัชญาณ หน้า 158...)

เมื่อครั้งที่อิหม่ามซัยนุลอาบิดีนเดินทางผ่าน ชาวกูฟะฮฺและได้เห็นพวกเขากำลงโศกเศร้าเสียใจและร้องไห้คร่ำครวญ ท่านก็ด่าว่าพวกเขาด้วยคำว่า “พวกเจ้าเศาร้าโศกเสียใจ และร้องให้คร่ำครวญเพื่อเราหรือ? แล้วใครหละที่เป็นผู้สังหารพวกเรา!”
(อัลมัลฮูป หน้า 86 , นัฟสุอัลมะฮ์มูม หน้า 357 , มักตัลอัลหุเสนของมุรตะฎอ หน้า 83 , ตุซลัมอัซซะฮ์รออฺ หน้า 257)
ในอีกรายงานหนึ่งระบุว่า ท่านกล่าวด้วยเสียงที่ค่อยเพราะความป่วยว่า “แท้จริงพวกขาเหล่านั้นกำลังร้องไห้ต่อพวกเรา ดังนั้นผู้ใดอีกเหล่าที่สังหารพวกอื่นจากพวกเขา”
(อัลอิหฺติญาจน์ เล่ม 2 หน้า 29)

อมมุกัลษูม บินตุ อาลี กล่าวว่า “โอ้ ชาวกุฟะฮ์เอ๋ย พวกเจ้าช่างน่าอับอายยิ่ง ทำไมพวกเจ้าถึงทอดทิ้งหุเสนและสังหารเขา พวกเจ้าได้ปล้นทรัพย์สิ้นของเขาและเป็นทายาทครอบครองทรัพย์สินของเขา พวกเจ้าได้บรรดาสตรีของเขามาเป็นเชลยและทำให้พวกนางตกอยู่ในความทุกข์ยาก ดังนั้นความฉิบหายและป่นปี่จงประสบต่อพวกท่าน”
(อัลมัลฮูฟ หน้า 91 , นัฟสุอัลมะฮฺมูม หน้า 363...)

สำหับท่านหะสัน ก็เคยถูกพวกชาวกูฟะฮ์ ซึ่งอ้างตนว่าเป็นชีอะฮ์ผู้สนับสนุนท่านมาแล้วเช่นกัน
หลักฐานการสังหารอะลุลบัยต์

ชาวชีอะฮ์ที่ชื่อ อิดรีส อัลหุสัยนีย์ ได้เล่าถึงเหตุการณ์การทรยศของชนรุ่นแรกของพวกเขาว่า “อิมามอันหะสันต้องประสบกับเหตุการณ์การลอบสังหารจากบุคลที่อยู่ในกองทหารของท่าน ซึ่งครั้งหนึ่งได้มีชาวเผ่าอะสัดคนหนึ่งชื่อ “อัลญะรอหฺ บุตร สินาน” มาหาท่านแล้วจับบังเหียนม้าของท่านไว้ พร้อมกับแทงอิมามตรงขาอ่อนของท่าน ดังนั้นอิมามจึงเข้าสวมกอดเขาไว้ แล้วทั้งสองก็ร่วงลงพื้นบนพื้นดิน จนกระทั้งอับดุลลอฮ์ บุตร หันซ็อล อัฏฏออีย์ เข้าไปต่อสู้กับท่าน แล้วหยิบเอาจอบจากอัลญะรอหฺ แล้วเสียบแทงท่านอีกครั้งหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นท่านถุกแทงอีกครั้งหนึ่งขณะที่ท่านดำรงละหมาดอยู่
(ละก้อด ชัยยะอะนี อัลหุสัยนฺ หน้า 279)

 والله أعلم

ส่วนหนึ่งอ้างอิงมาจาก ตามหาฆาตกร 10-01-61 จากตำราชีอะฮฺ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น