พิธีถวายเลือดรอฟีเฎาะฮฺ

พิธีถวายเลือดรอฟีเฎาะฮฺ
ท่านอาลี ท่านฮาซัน และท่านฮูเซน ไม่เคยรับรู้พิธีนอกรีดที่ว่านี้เลย

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รอฟีเฎาะฮฺคือศัตรูอิสลาม




กลุ่ม ฮิซบุลลอฮฺ พวกเขาอยู่ในแนวทางของชีอะฮฺ หัวหน้าของกลุ่มที่ชื่อว่า หะซัน นัศรุลลอฮฺ ก็เคยเข้าร่วมกับกลุ่มชีอะฮฺอีกกลุ่มที่ชื่อว่ากลุ่มอมัล (???) ในการเข่นฆ่าชาวซุนนีในเมืองเบรุตประเทศเลบานอน คนผู้นี้เช่นกันที่ได้ประณามและด่าท่านมุอาวิยะหฺ บินอบีซุฟยาน (เป็นศอฮาบะฮฺท่านนบีและเป็นผู้หนึ่งที่ท่านนบีมอบหมายให้บันทึกอัลกุ รอาน)อย่างเปิดเผยในสังคมเลบานอนโดยมิได้ใส่ใจความรู้สึกของชาวซุนนีแม้แต่ น้อย กลุ่มฮิซบุลลอฮฺอีกเช่นกันที่ได้เข้าไปครอบครองมัสยิดต่างๆของชาวซุนนีทาง ภาคใต้ของเลบานอนโดยไม่คำนึงถึงเสียงเรียกร้องของผู้นำชาวซุนนีแต่อย่างใด


หนังสือ ต่างๆของชาวชีอะฮฺได้ระบุอย่างชัดเจนในเรื่องการเป็นกาฟิร(การปฏิเสธ ศรัทธา)ของชาวซุนนีหรือชาวอันนาศิบะหฮฺ (คือพวกที่ถูกชีอะฮฺกล่าวหาว่าไม่ยอมรับการเป็นผู้นำของท่านอะลี โดยอ้างว่าท่านอะลีสมควรที่จะเป็นคอลีฟะฮฺมากกว่าท่านอบูบักรฺ ท่านอุมัรและท่านอุษมาน ซึ่งพวกที่ถูกชีอะฮฺกล่าวหาอย่างนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชาวซุนนีนั่น เอง) หนังสือบางเล่มของชีอะฮฺเช่น อัลกาฟียฺของอัลกุลลัยนียฺ ยังได้กล่าวหาท่านหญิงอาอิชะฮฺ(ภรรยาท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ว่าได้กระทำสิ่งลามก(การผิดประเวณี) และโองการในซูเราะฮฺอันนูรนั้นอัลลอฮฺก็มิได้ประทานลงมาเพื่อประกาศความ บริสุทธิ์ของท่านหญิงอาอิชะฮฺแต่อย่างใด ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ตรงข้ามกับที่ชาวซุนนีเชื่อว่าท่านหญิงอาอิชะฮฺถูกใส่ ร้ายโดยกลุ่มมุนาฟิกีนในมะดีนะฮฺว่านางได้ทำซินา จนอัลลอฮฺตะอาลาได้ทรงประทานโองการดังกล่าวมาเพื่อประกาศความบริสุทธิ์ของ ท่านหญิง


ชาว ชีอะฮฺทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกยังคงประกาศความเคารพภักดีต่อโคมัยนีผู้ ซึ่งเห็นชาวซุนนีเป็นศัตรู จนถึงขั้นที่ว่าบรรดาชาวยิวและคริสต์ในอิหร่านได้รับสิทธิในสภาอิหร่าน ในขณะที่ชาวซุนนีไม่มีสิทธิและตำแหน่งใดๆในสภาดังกล่าว


ชาวซุนนีในอิหร่านยังถูกข่มเหง ถูกทรมาน และถูกอธรรมในหลายๆรูปแบบ มัสยิดของพวกเขาถูกทำลายหรือถูกยึดโดยชาวชีอะฮฺ ถูกปิดกั้นมิให้เผยแผ่หลักการของอะหฺลุซซุนนะฮฺ ถูกห้ามมิให้มีโรงเรียนของชาวซุนนี และล่าสุดทางการอิหร่านได้จำคุกชาวซุนนีกลุ่มหนึ่งในมณฑลอัลอะหฺวาซด้วยข้อ หาครอบครองหนังสือซุนนีแนวสะลัฟ 


ชาว ชีอะฮฺทั้งในอิหร่าน เลบานอน รวมทั้งประเทศไทย ไม่เคยลืมความขัดแย้งระหว่างซุนนีและชีอะฮฺที่เกิดขึ้นมาในอดีต พวกเขายังคงรื้อฟื้นและเน้นย้ำถึงความขัดแย้งด้านความเชื่อและหลักศรัทธา หัวหน้าชาวชีอะฮฺในเมืองไทยยังเคยประณามท่านอุมัร บิน อัลคอฎฎอบ(ซึ่งได้ถูกบันทึกไว้ในเทปดังม้วนหนึ่ง) โดยไม่สนใจความรู้สึกของชาวซุนนี แต่ทำไมเล่าจึงเรียกร้องให้ชาวซุนนีลืมความขัดแย้งทั้งหมด ทำไมเล่าจึงเรียกร้องให้เลื่อนหรือยกยอดความขัดแย้งนี้ไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น